สถิติ
เปิดเมื่อ20/06/2019
อัพเดท6/09/2019
ผู้เข้าชม1535
แสดงหน้า1695
สินค้า
ปฎิทิน
July 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
  
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
  




ข้อมูลทั่วไปของจังหวัดกระบี่

อ่าน 99 | ตอบ 0

ตราประจำจังหวัดกระบี่

 

สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่

ทะเลแหวก

ทะเลแหวก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen Thailand ของชาวกระบี่ที่มีจุดสวยงามอย่างมหัศจรรย์ ที่เราสามารถเดินเหยียบทรายขาวละเอียด จากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งได้เวลาน้ำลด ทะเลแหวกเกิดจาก สันทรายจากเกาะสามเกาะ คือเกาะไก่ เกาะหม้อ เกาะทับ ทั้งสามเกาะนี้เป็น3 เกาะเด่นที่อยู่ใน หมู่เกาะปอดะ 

 

 

 

 

ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกัน มีสันฐาณติดกันเมื่อคลื่นพัดทรายมาพบกันที่จุดนี้จึงทำให้เกิดเป็น แนวสันทราย เชื่อมเกาะทั้งสามเกาะนี้ให้ถึงกัน สันทราย นี้จะจมหายไปเมื่อน้ำขึ้นสูง เมื่อน้ำลดแนวสันทรายก็จะค่อยๆ โผล่ขึ้นมา เหมือนกับว่าแบ่งทะเลให้้แยกออกกันเป็นสามส่วน สันทรายจะโผล่ในช่วงที่น้ำทะเล ลดต่ำสุด แต่ถึงแม้ว่าสันทราย จะไม่โผล่เราก็สามารถเดินเล่น ได้ หาดทรายของทะเลแหวกนี้ขาวสะอาดน่าเล่นน้ำ การท่องเที่ยวทะเลแหวกจะนิยมท่องเที่ยว ทั้งหมด 4 เกาะ คือเกาะไก่ เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะปอดะ ซึ่งสามารถเที่ยวได้ใน 1 วัน       เริ่มจาก เกาะไก่ ที่เรียกว่าเกาะไก่ก็เพราะว่าทางด้านปลายสุดของเกาะมีหินแหลมๆ เมื่อมองขึ้นไปแล้วคล้ายคอไก่ เกาะไก่เป็นเกาะที่สามารถหยุดเรือ แล้วลงไปว่ายน้ำ ได้โดยสามารถลงไปเล่นน้ำชมปลาแหวกว่าย ต่อด้วยเกาะทับ เกาะที่เราสามารถมองเห็นปะการัง น้ำตื้นได้ โดยที่ไม่ต้องลงไปดำกันลึกๆ แวะพักเล่นน้ำให้ ในบรรยากาศอันเงียบสงบจากนั้นก็จบด้วยเกาะปอดะ เกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด นุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใส เกาะปอดะเหมาะกับการมาเที่ยวพักผ่อนและเล่นน้ำซะมากกว่าที่จะมาดำน้ำ ชมปะการัง เพราะในย่านนี้ไม่ค่อยมีที่พอมีก็ไม่สวยทะเลกระบี่ เหมาะกับการมาท่องเที่ยวพักผ่อนชมวิว เล่นน้ำการมาชมทะเลแหวก ควรมาชมในช่วงเวลา น้ำลงต่ำสุดในแต่ละวันโดยเฉพาะในวันก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเที่ยวทะเลแหวกคือ ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายนถึง ต้นพฤษภาคม  จุดเด่นของการเที่ยวชมทะเลจะแหวกคือการมาชมวิว ถ่ายภาพ ควรหลีกเลี่ยงการมาเที่ยวในช่วงวันหยุดเทศกาล ทะเลแหวกจะมีคนเยอะเดินกันจนแน่น ไปหมด ถ้าจะมาชมทะเลแหวกให้ประทับใจควรเลือกมาใน ช่วงวันหยุด ธรรมดานอก จากชมวิวถ่ายภาพทะเลแหวกแล้วที่นี่ยังเป็นอีกชายหาดหนึ่งที่น่าลง เล่นน้ำเพราะ มีแนวหาดทราย กว้าง น้ำใส ปลาเยอะ แต่ถ้าจะมาเล่นน้ำก็แนะนำให้มาในช่วงวันหยุดธรรมดา(เสาร์-อาทิตย์)หากมาวันหยุดเทศกาลคนเยอะ ไม่สนุก

https://www.youtube.com/watch?v=9RoiCn6cy_c

 

 

 

                             

เกาะปอดะ

เกาะปอดะ เกาะสวยแห่งทะเลกระบี่ เป็นเกาะเอกชนที่ยังคงความงดงาม เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการเที่ยวทะเล กระบี่เกาะปอดะ ตั้งอยู่ในทะเลด้านหน้าอ่างนาง อยู่ห่างจากฝั่งอ่าวนางประมาณ 8 กิโลเมตรหาก ยืนอยู่ริมหาดที่ อ่าวนางหรือ หาดพนรัตน์ธารา แล้วมองออกไปในทะเลจะเห็นหมู่เกาะเล็กใหญ่กระจุกตัวอยู่ ในบริเวณใกล้ๆ กัน เกาะใหญ่ที่สุดในนั้นคือเกาะปอดะ เกาะใกล้ๆ กันได้แก่เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่ ซึ่งเป็น 4 เกาะไฮไลท์สำหรับการท่องทะเลกระบี่เกาะปอดะ มีชายหาดล้อมรอบทั้งสามด้านยกเว้นทางด้านทิศตะวันตกซึ่งเป็นด้านที่รับคลื่นด้านนี้เป็นหน้าผาหิน สูง ชันชาดหาด ด้านหน้าเกาะหาดทรายที่ขาวละเอียด น้ำทะเลใสถึงแม้จะอยู่ไม่ไกลจากฝั่ง นักท่องเที่ยว นิยม แวะ ขึ้นเกาะเพื่อไปพักผ่อนเดินเล่น ชาดหาดและเล่นน้ำ ถึงแม้เกาะนี้จะเป็นเกาะเอกชนแต่เป็นเอกชนใจดีไม่เก็บค่าธรรมเนียมค่าขึ้นเกาะ ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่ขึ้น ไปเที่ยวจึงควรช่วยกันรักษาความสะอาด เกาะปอดะ เกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด นุ่มเท้า น้ำทะเลสีฟ้าใส เหมาะกับการมาเที่ยว พักผ่อน และเล่นน้ำมากกว่าที่จะมาดำน้ำชมปะการัง เพราะในย่านนี้ไม่ค่อยมีที่พอมีก็ไม่สวยทะเลกระบี่ เหมาะกับการมาท่องเที่ยว พักผ่อนชมวิวเล่นน้ำ การมาชมทะเลแหวก ควรมาชมในช่วงเวลาน้ำลงต่ำสุดในแต่ละวัน โดยเฉพาะในวันก่อน และหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน ช่วงเวลา ที่เหมาะกับการ

 

 

 

เที่ยวทะเลแหวกคือ ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายนถึงต้นพฤษภาคม

บนเกาะเป็นที่ต้องของปอดะ ไอร์แลนด์ รีสอร์ท มีที่พักไว้บริการให้แก่นักท่องเที่ยวที่สนใจขึ้นไปพักบนเกาะ นอก จากที่พักแล้วบนเกาะ ยังมีร้านอาหารไว้บริการนักท่องเที่ยว ท่องเที่ยวชายหาด บริเวณหาดด้านหน้ามีชายหาด เป็นแนวยาวเหมาะแก่การเล่นน้ำชาดหาด ด้านซ้ายเป็นอีกจุดที่น่าพักผ่อนเพราะเงียบสงบคนน้อย หาดด้านขวา หรือทิศเหนือของเกาะไม่เหมาะที่จะพักผ่อน เล่นน้ำเพราะเป็นจุด จอดเรือหางยาวและใกล้ทางเข้าร้านอาหารผู้คนพลุกพล่านพอสมควร

 

https://www.youtube.com/watch?v=rK4-u1vh6m

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เกาะพีพี

หมู่เกาะพี พี อยู่ห่างจากจังหวัดกระบี่ราว 40 กิโลเมตร หมู่เกาะพีพี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ หาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เดิมชาวทะเลเรียก หมู่เกาะนี้ว่า “ปูเลาปิอาปิ” คำว่า “ปูเลา” แปลว่าเกาะ คำว่า “ปิอาปิ” แปลว่าต้นไม้ทะเลชนิดหนึ่งจำพวกแสม และโกงกาง ต่อมาเรียกว่า “ต้นปีปี” ซึ่งภายหลัง กลายเสียงเป็น “พี พี' ซึ่งได้ ชื่อว่าเป็นอาณาจักรแห่งบุปผาใต้สมุทรนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหมู่เกาะนี้ส่วนใหญ่มาเพื่อดำน้ำดูปะการัง ดอกไม้้ทะเลและปลา หลากสีสันที่สวยงาม

หมู่เกาะพีพี ประกอบด้วยประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ๆ คือ เกาะพีพีดอน เกาะพีพีเล และเกาะเล็กๆข้างเคียง คือ เกาะยูง เกาะไม้ไผ่ อาจกล่าวได้ว่า เกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล เป็นสุดยอดแห่งสถานที่ท่องเที่ยวหลัก เป็นเวิ้งหรืออ่าวใหญ่ที่ภายในมีหาดทรายขาวสะอาดสวยงาม น่าเล่นน้ำแลพดูปะการัง และเกาะพีพีดอน เองครั้งหนึ่ง เคย ติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับเกาะที่สวยงามที่สุดในโลกเลยทีเดียว เกาะพีพีดอนเป็นศูนย์กลางของหมู่เกาะพีพี มีทั้ง ที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วยเกาะพีพี ประกอบ ด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คือ อ่าวต้นไทร และอ่าวโละดาลัมคั่นด้วยที่ราบเล็กๆร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว

 

 

 

1. เกาะพีพีดอน 

เกาะพีพีดอนเป็นเกาะใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของเกาะพีพี ทั้งที่พัก ท่าเรือ ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก ทุกอย่างอยู่ที่เกาะนี้ทั้งหมด รวมทั้งยังมีทิวทัศน์ที่ งดงาม เกาะพีพีดอน ประกอบด้วยอ่าว 2 อ่าวที่เป็นเวิ้งอ่าวคู่ คือ อ่าวต้นไทรกับ กับอ่าวโละดามลัมซึ่งเป็นเวิ้งวงเข้าหากันคั่นด้วยที่ราบเล็กๆ ร่วมรื่นด้วย ทิวมะพร้าว จากจุดชมวิวบนยอดเขาจะเห็น ความงดงามนี้ที่สร้างชื่อให้คนรู้จักเกาะพีพีมานานการที่จะไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ จะขึ้นอยู่กับฤดูกาลเป็นหลัก ช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะมาเที่ยวเกาะพีพี อยู่ที่เดือน กุมภาพันธ์ - เมษายน คุณสามารถ ไปเที่ยวเกาะพีพีได้ทุกจุดรอบเกาะ แต่ช่วงเวลาหลังจากนั้นสามารถไป ได้เพียงบางจุดเท่านั้น เพราะติดเรื่องของสภาพอากาศ อย่างไรก็ตาม แหล่งท่องเที่ยวบนเกาะพีพีดอน ที่น่าสนใจมีอยู่รอบเกาะ ได้แก่- อ่าวต้นไทร 

อยู่ทางทิศใต้ของเกาะพีพีดอน เป็นที่ตั้งของ ท่าเรือต่างๆ ชายหาดยาว 2 ก.ม. เองก็มีความสวยงาม หาดทราย สวย น้ำใส แม้จะมีเรือจอดเรียงรายก็ตาม เหมาะแก่การเล่นน้ำ เดินเล่น ร่มรื่นด้วยเงาต้นมะพร้าว ทางทิศตะวันตก ยังสามารถ ดำน้ำดูปะการังได้อีกด้วยในอีกมุมหนึ่ง ใจกลางของอ่าวต้นไทร คือ ศูนย์กลางการค้า โรงแรม รีสอร์ท มากมาย  ผู้คนมากมายร้อยละ 90 เป็นชาวต่างชาติ ใส่ว่ายน้ำหรือสาวๆก็ใส่ชุดบิกินนี่เดินกันให้ขวักไขว่ สองข้าง ทางเป็นตึกแถวสองชั้น หน้าร้านเรียงรายกัน เป็นร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านขายเสื้อผ้า ร้านจำหน่ายทัวร์ ร้านขายของที่ระลึก เดินห่างออก ห่างออกไปจะเป็นผับ บาร์ บรรเลงดนตรีเฮฮาเป็นที่ สนุกสนาน ตลอดเย็นจรดกลางคืน

 

 

 

 

 

 

-อ่าวโละดาลัม

เป็นอีกหาดที่เวิ้งโค้งเข้าหาอ่าวต้นไทร สามารถเดินทะลุถึงกันได้โดยใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาที อ่าวนี้มี ชายหาดที่กว้างมากและเป็นหาดที่น้ำตื้น จึงไม่เหมาะจะเป็นท่าเรือเหมือนอ่าวต้นไทร และเวลาน้ำลดจะ เกิดเป็น เวิ้งอ่าวที่ใหญ่ น้ำในทะเลค่อนข้างนิ่งและไม่ลึก หาดนี้จึงเหมาะแก่การทำกิจกรรม ทางทะเลหรือเล่นกีฬาริมหาด เช่นพายเรือคายัค เรือกล้วย หรือลงเล่นน้ำ อ่าวโละดาลัมเป็นหาดหนึ่งที่มีที่พักให้เลือกมากมาย และค่อนข้าง จะสะดวก สบายไม่แพ้ที่อ่าวต้นไทร แต่จะมีความเงียบสงบมากกว่าที่อ่าวต้นไทร

-อ่าวยงกะเส็ม(อ่าวลิง)

นักท่องที่ยวและคนที่เกาะเรียกกันติดปากว่าอ่าวลิง หรือ Monkey Bay หากมองภาพของอ่าวลิงจาก เรือไปสู่ ชายหาด ฉากหลังตลอดแนวขาวชองหาดทราย คุณจะเห็นสีเขียวของป่าทึบตัดกับสีขาวของทรายนั่นคือจุดที่ป่า มาพบกับทะเลที่นี่ ภูเขาด้านหลังของอ่าวลิงค่อนข้างสูงชัน และเขียวทึบ ป่าผืนนี้จะเป็นสีเขียว ตลอดปี ซึ่งป่าแห่งนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของลิงฝูงใหญ่ ซึ่งบ่อยครั้งจะลงมาที่ชายหาด และเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว อ่าวลิงมี มีทะเล และเป็นแหล่งของปะการัง เป็นกองหินอยู่ใต้น้ำจำนวนมากมายแนวประการังที่อ่าวลิงนับว่าเป็นแนวประการังที่ใหญ่พอสมควร มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง เป็นประการังน้ำตื้น แต่ตามช่วงแนวหน้าผาลึกลงไปจะเป็น ประการังอ่อน สีสดใส พริ้วไหวกับกระแสน้ำ ท่านที่ไม่เคยดำน้ำแบบ Scuba Diving แต่ถ้ามาดำน้ำตามหน้าผา ในจุดนี้ช่วงน้ำลง จะได้พบเห็นประการังอ่อน และสภาพแวดล้อมของประการังน้ำลึก เหมือนได้ ดำน้ำแบบ Scuba Diving

 

 

 

 

 

-หาดยาว

อยู่ติดกับอ่าวต้นไทรจึงมีความคึกคักไม่แพ้กัน ชายหาดมีความยาวเกือบ 700 เมตร เป็นชายหาดที่ยาวสมชื่อ นักท่องเที่ยวนิยมไปนอนอาบแดดและเล่นน้ำ ทะเลกันมาก นอกจากนี้ยังมีแหล่งดำน้ำที่เด่นที่สุด อยู่ที่ปลายหาด ทางด้านทิศตะวันออกบริเวณ หินแพ เป็นกองหินใต้น้ำ ที่มีปะการังหลากหลายชนิด เช่น ปะการังกิ่ง ปะการังสมอง สามารถดำได้ทั้งแบบน้ำตื้นและน้ำลึก ถัดจากหาดยายอ้อมหัวเกาะไปอีกฝั่ง มีหาดเล็กๆที่เงียบสงบ ยาวประมาณ 400 เมตร ชื่ออ่าวโละมูดี มีหาดทรายที่ขาวสะอาด สามารถเล่นน้ำได้ เดินทางได้โดยนั่งเรือมาจากอ่าวต้นไทร

2. เกาะพีพี เล 

เกาะพีพีเล มีพื้นที่เพียง 6.6 ตารางกิโลเมตร เกาะพีพีเลไม่มีสิง่อำนวยความสะดวกจากที่พักและร้านอาหาร เพราะเป็นเกาะเขาหินปูนมีหน้าผาสูงชันตั้งฉาก กับพื้นผิวทะเลโดยรอบเกือบทั้งเกาะ ทั้งเกาะมีชายหาดเพียงเล็กน้อย แต่มีจุดเด่นทางธรรมชาติคือ การเป็นจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลุกที่สวยงาม สามารถดำชมได้บริเวณอ่าวปิเล๊ะ และอ่าวโลซะมะ จุดท่องเที่ยวสำคัญของเกาะพีพีเล ได้แก่

- อ่าวปิเละ

มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวใหญ่ มีหน้าผาสูงชั้นปิดล้อมรอบด้าน แต่งแต้มด้วยสีเขียวของพรรณไม้หายาก นานาชนิด มีลักษณะที่เรียกว่า Lagoon หรือ ทะเลใน มีทางเข้าเพียงทางเดียวหน้าผาที่ตั้งฉาก 90 องศากับทะเลให้ ความรู้สึกเหมือนหนึ่งเราลอยอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ ที่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกตอมฟ้าและนื่ง เรียบ สนิทเหมือน กระจกเงา เรือ ท่องเที่ยวจะนิยมมาดับเครื่องจอดนิ่งอยู่ภายในเวิ้งอ่าวที่แวดล้อมด้วย ขุนเขาให้นักท่องเที่ยว ได้ชื่นชมความงามของทะเล สีมรกตคล้ายกับโลกอาณาจักรส่วนตัวอันนิ่งสงบ นอกจากนี้ อ่าวปิเละยังเป็นจุดดำน้ำ ดูประการังที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งทางด้านหน้าของทางเข้าอ่าวจะเป็น หน้าผา และที่นี่คือจุดดำน้ำลึก ที่สวยงาม มากแห่งหนึ่ง หากชอบดำน้ำตื้นแบบก็ยังสามารถดำน้ำดูประการังที่ด้านหน้าของอ่าวปิเละได้







 

- อ่าวมาหยา 

อ่าวที่งดงามที่สุดของเกาะพีพีเล เพราะเป็นเวิ้งอ่าวใหญ่โอบล้อมด้วยแนวหน้าผาจน ลักษณะของอ่าวมาหยา จะคล้ายกับทะเลใน Lagoon  มีภูเขาล้อมรอบ คล้ายกลายเป็นอาณาจักรส่วนตัว ภายในอ่าวน้ำทะเลเป็น สีมรกต ใสมีหาดทรายขาวสะอาดผืนใหญ่ทอดตัวเป็นแนวยาวด้านใน สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่าง หนึ่งของอ่าวมาหยา คือเม็ดทราย ที่ขาวละเอียด และอ่อนนุ่มเหมือนผงแป้ง เมื่อคุณได้ไปสัมผัสกับหาดทรายของอ่าวมาหยา คงอด ไม่ได้ที่จะเอนตัวลงบน บนหาดทรายที่อ่อนนุ่มขาวสะอาดตา ที่ใครๆมาถึงต่างก็หลงรักในความงามของที่นี่ อ่าวมาหยายังใช้้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ฮอลีวู๊ต เรื่อง 'The Beach ในช่วงเดือนตุลาคม จนถึงเมษายนเป็น ฤดูกาลที่ดีที่สุดที่จะเป็นเที่ยวอ่าวมาหยา เพราะจะไม่มีลมเข้ามาทางด้านหลังของเกาะพีพี น้ำในอ่าวมาหยา จะนิ่ง สนิทและใสเหมือนกระจกเงา แต่ในช่วงเวลาอื่นอาจจะเข้าอ่าวมาหยาได้เพียงบางวันที่อากาศดี และไม่มีลมแรง เท่านั้น หรืออาจจะเข้าอ่าวมาหยา จากทางอ่าวโละซะมะอีกฝั่งหนึ่งของเกาะพีพีเล โดยจะมีทางเดิน ลอดถ้ำเล็กๆ เข้ามาถึงอ่าวมาหยาได้ ใช้เวลาเดินไม่นานนัก

- อ่าวโล๊ะซามะ

คือเวิ้งอ่าวแคบๆอีกแห่งหนึ่งที่น้ำทะเลสวยใส เป็นจุดดำน้ำตื้น snorkeling ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ของเกาะพีพีเล อ่าวโล๊ะซะมะ มีความหลากหลาย ทางชีวภาพสูงมา คุณจะได้พบเห็นประการังอ่อนหลากลายชนิดที่นี่ สีสันใต้ทะเล ของอ่าวโล๊ะสะมะจัดได้ว่าจัดจ้านทีเดียว มีปลาน้อยใหญ่จำนวนมาก สีสันสวยงาม ใต้ท้องทะเลของอ่าวจะเป็น กองหิน ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ทะเลในวันที่อากาศแจ่มใสคุณจะมองเห็นปลาน้อยใหญ่และกองหินแนว ประการัง จากเรือของคุณเอง จนคุณจะอดไม่ได้ที่จะคว้าหน้ากากและกระโดดลงไปไหว้น้ำกับฝูงปลาใหญ่น้อย การดำน้ำ แบบ scuba divingก็สวยงามเช่นกัน คุณจะเพลิดเพลินกับการดำน้ำผ่าน หน้าผาใต้ทะเล ที่เต็มไปด้วยกอกัลปังหา และประการังอ่อนหลากสีสันที่พริ้วไหวไปตามกระแสน้ำ

- ถ้ำไวกิ้ง

เป็นถ้ำขนาดใหญ่ สูงประมาณ 80 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะพีพีเล ซึ่งเมื่อปี 2515 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จประภาสถ้ำนี้ และทรงพระราชทานนามใหม่ว่าถ้ำ พญานาค ตามรูปร่างของหินก้อนหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายเศียลพญานาคภายในถ้ำมีลักษณะเป็นห้อง โถงขนาดใหญ่ แต่ค่อน ข้างมือมี หินงอกหินย้อยสวยงาม และภาพเขียนสีโบราณอายุกว่าร้อยปี ปรากฎอยู่บน








 

ผนังถ้า ด้านทิศตะวันออกและทิศใต้มีอยู่ ประมาณ 70 ภาพ ภาพส่วนใหญ่เป็นภาพเรือชนิดต่างๆ เช่นเรือใบ เรือสำเภา เรือกำปั่น เรือกลไฟ บ้างก็มีลักษณะคล้ายกับเรือไวกิ้ง จึงเป็นที่มาของชื่อ ถ้ำไวกิ้ง นั่นเอง สันนิษฐานว่า ภาพเขียนเหล่านี้เป็ ฝีมือของ ชาวประมง นักเดินเรือ หรือ พวกโจรสลัด ที่มาอาศัยหลบคลื่นลมมรสุมซ่อมแซมเรือ หรือขนถ่าย สินค้า ภายในถ้ำ เมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว ปัจจุบันไม่อนุญาติให้เข้าไปภายในถ้ำไวกิ้งอีกต่อไปเนื่องจากทำให้เกิดสภาพที่เสื่อมโทรม ไม่เป็นธรรมชาติ ปัจจุบัน ถ้ำรังนกจึงเป็น พื้นที่หวงห้ามของสัมปทานรังนก นักท่องเที่ยวเพียงแค่นั้งเรือชม ทิวทัศน์ ด้านหน้าถ้าไวกิ้งเท่านั้น

 

3.เกาะไม้ไผ่ 

ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอนไม่ไกลจากเกาะยูงเท่าใดนัก ด้านทิศเหนือและ ทิศตะวันออก มีหาดทราย สวยงาม และแนวปะการัง ซึ่งส่วนมากเป็น แนวปะการังเขากวางทอดยาวไปถึงทางทิศใต้ของตัวเกาะ 

4.เกาะยูง

ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน มีชายหาดซึ่งเป็นหาดหินอยู่ทางด้านทิศตะวันออก และมีหาดทรายเล็กน้อย ตามหลืบเขา นอกจากนี้ยังมีแนวปะการังสวยงามชนิดต่างๆ ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ กิจกรรม : กิจกรรมชายหาด - ดำน้ำตื้น - ดำน้ำลึก

 

https://www.youtube.com/watch?v=pAhyMnwJxrc


























 

 

หาดถ้ำพระนาง

หาดถ้ำพระนาง

หาดถ้ำพระนาง อยู่ในเขต ต.อ่าวนาง จะกระบี่  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในโปรแรกมท่องเที่ยว ทัวร์ สี่ เกาะ เกาะปอดะ เกาะทับ(ทะเลแหวก) เกาะไก่ และ หาดถ้ำพระนาง ที่นี่คือ 1 ใน ไฮไลท์แหล่งท่องเทียวทางทะเลของกระบี่ มุมอัศจรรย์มุมนี้ต้อง เดินลึกเข้าไปจนสุดชายหาด อันเป็นที่ตั้งของ ถ้ำพระนาง ด้วยเป็นที่สถิตของ พระนางอันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวเรือแถบนี้เคารพสักการะ มุมมองนี้เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใด คือเมื่อเข้าไปอยู่ภายในถ้ำมองออกมาจะเห็นปากโพรงถ้ำ มีหินย้อยลงมาเป็นฉากระย้า สวยงาม มีท้องทะเลกว้างและเกาะน้อยใหญ่เรียงรายในยามพระอาทิตย์ตก จะเป็นมุมมองสวยงามแปลกตา น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่ง ในเมืองไทย บรรยากาศในช่วงเวลากลางวัน ณ อ่าวถ้ำพระนาง แห่งนี้จะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งนักท่องเที่ยวที่ซื้อตั๋วเรือเมล์มาจากสหกรณ์เรือหางยาวอ่าวนาง ,นักท่องเที่ยวที่ซื้อโปรแกรม ทัวร์ทะเลแหวก – หมู่เกาะปอดะ - อ่าวถ้ำพระนาง”และ นักท่องเที่ยวที่เดินเท้ามาเองจากหาดไร่เลย์ แต่พอถึงช่วงเวลาเย็นเมื่อ นักท่องเที่ยวเหล่านี้เริ่ม ทยอยกัน เดินทางกลับสู่ที่พัก บรรยากาศบริเวณอ่าวถ้ำพระนางก็จะกลับเข้าสู่ความสงบงามอีกครั้ง เนื่องจากอ่าวถ้ำพระนางนั้นมีชายหาดซึ่งหันเข้าสู่ทิศตะวันตก ในยามเย็นนักท่องเที่ยวที่พักค้างแรมอยู่ตามรีสอร์ทต่าง ๆ บริเวณ หาดไร่เลย์ – อ่าวถ้ำพระนางจึงสามารถมานั่งรอชมพระอาทิตย์ตกบริเวณด้านหน้าอ่าวแห่งนี้ได้ และหากนักท่องเที่ยว เลือกเดิน ทางมาเยือนอ่าวถ้ำพระนางใน







 

ยามย่ำสนธยาของคืนเดือนมืดที่คลื่นลมทะเลสงบราบเรียบแล้วล่ะก็ นักท่องเที่ยว อาจจะ ได้พบ เห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์พันลึกที่หาชมได้ยากยิ่ง ณ ท้องทะเลด้านหน้าอ่าวแห่งนี้ด้วย นั่นก็คือปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” ปรากฏการณ์ “พรายน้ำ” เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวโยนก้อนหิน ก้อนกรวด หรือนำร่างกายลงไป สัมผัส กับพื้นผิวน้ำบริเวณด้านหน้าอ่าวถ้ำพระนางแล้วมีแสงสว่างวาบขึ้นมา ณ จุดสัมผัสชั่วขณะหนึ่งก่อนจะเลือนหายไปนอกจากนี้ ถ้ำพระนาง เป็นศาลของเทพธิดา ล้อมรอบสิ่งของที่ชาวบ้านนำมาแก้บน นั่นคือไม้แกะสลักที่เรียกว่า ปลัดขิก มีขนาดและ สีสันที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับสถานที่ต่างๆในโลก แต่ที่นี่มันความเชื่อของมนุษย์ในจิตวิญญาณความเป็น อยู่ของทุก สิ่งที่เคลื่อน ไหวอย่างเช่น (นก, ปลา,สัตว์เลื้อยคลานเลี้ยงลูก ด้วยนม,แมลง) รวมทั้งเซื่องซึมเป็น (พืช,หิน,แม่น้ำ,ทะเล,ภูเขา และที่ดินมาก พวกเรายืนอยู่มื่อเรื่องเล่าของชาวบ้านแสดงให้เห็นว่าสมัยก่อน มีเรือพระราช จมนอกชายฝั่งคาบสมุทร และมีพระนาง กับเจ้าหญิง ชาวอินเดียชื่อ ศรีกุลเทวีลอยอยู่บนกระดาน เพราะเธอจมน้ำไปพร้อมกับเรือในทะเลซึ่งเชื่อกันว่า ชีวิตของ เธอไม่เคย สมหวังในเรื่อง ต่างๆ และยังเชือกับว่าวิณญาณของเธอได้สิงสถิดอยู่ที่ศาลแห่งนี้จนถึงบัดนี้ เป็นที่เชื่อกันในหมู่ชาวบ้านที่นี่ ว่าวิญญาณของ พระนาง(เทพธิดา)อยู่ในถ้ำนี้ชาวประมงก่อนที่จะออกไปทะเลจำเป็นที่จะต้องมา ขอพรจากพระนางก่อนแล้วจะ โชคดีและ สมปรารถนาของพวกเขาที่ปรารถนาไว้ และเชื่อว่าสมปรารถนา,การทำพิธี บนจะทำที่ศาลเจ้าส่วนใหญ่จะ เป็นอาหาร และดอกไม้ ธูปเทียนแต่โดยปกติแล้วจิตวิญญาณของ เทพธิดาตามที่เชื่อกันว่าสิ่งที่ ท่านต้องได้รับเป็นสิ่งตอบแทนเป็นพิเศษ คือ ปลัดขิกตอนนี้ คนไทยไม่ว่าจะนับถือศาสนาอะไร ไม่ว่าจะศาสนาพุทธหรือศาสนาอิสลามที่มีความเชื่อเรื่องของ ปลัดขิก ที่ศักดิ์สิทธิ์ และหากสร้าง ถวายศาลเจ้า จะเชื่อว่าจะมีความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรืองของโลกทั้งโลกและมนุษย์ ไม่ว่าที่มาและ ความเชื่อว่าวิญญาณ หญิงสาว ที่มีประสิทธิภาพและเป็นกฎของคาบสมุทรแห่งนี้เป็นที่ชัดเจนโดยการบูชาอย่างต่อเนื่อง ของคน ในท้องถิ่น ถ้ำพระนาง ถือว่ามีความสำคัญทางจิตวิญญาณที่ดีสำหรับพวกเขา ชาวประมงเหล่านั้นที่นับถือศาสนาอิสลามจะบูชา และมีความเชื่อโดย ไม่คำนึงถึง ทางศาสนาของพวกเขา และพวกเขาเชื่อถือว่าเป็นเรื่องจริง เพื่อความเชื่อมั่นว่า โชคชะตาและ ความเจริญรุ่งเรืองของ พวกเขาจะเชื่อมโยงไปยังที่ของเจ้าหญิงในตำนาน พวกเขายังคงให้การเสนอ ขายปกติของข้าว ผลไม้,น้ำ ธูป, ดอกไม้และ ปลัดขิก

 

https://www.youtube.com/watch?v=ntyw88V_y1Y







 

เกาะไผ่ กระบี่

เกาะไผ่ หรือเกาะไม้ไผ่ เป็นเกาะเล็กกลางทะเล ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะพีพีดอน ไม่ไกลจากเกาะยุงเท่าใดนัก เกาะไผ่ อยู่ในพื้นที่ การดูแลของอุทยานแห่งชาตินพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี แต่บรรยากาศของเกาะไผ่จะต่างกับเกาะพีพีอย่างสิ้นเชิง เพราะเป็นเกาะที่เงียบสงบ  มีน้ำทะเลใส มากมีหาดทรายสวยงาม เป็นเกาะที่มีแนวปะการังที่สวยงาม เหมาะสำหรับมาดำน้ำดูความสวยงามของโลกใต้ทะเล ช่วงเวลาเหมาะการเที่ยว คือช่วงที่ไม่มีลมมรสุม ประมาณเดือนพฤศจิกายน-เมษายนของทุกปี  

 

 

 

https://www.youtube.com/watch?v=uX3xSA8na8g

 

https://www.youtube.com/watch?v=Scb1XRBTomc









 

 

อ่าวนาง

อ่าวนาง เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทะเลกระบี่ เป็นที่ตั้งของ รีสอร์ท ร้านอาหาร บริษัททัวร์ให้บริการนำเที่ยวเกาะที่มีชื่อต่างๆของกระบี่ เช่น ทะเลแหวก เกาะปอดะ เกาะพี พี หมู่เกาะห้อง เป็นจุดเช่าเรือไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ได้แก่ หาดไร่เล ถ้ำพระนาง และเกาะต่าง ๆสถานที่ท่องเที่ยวในทะเลกระบี่ พื้นที่ของ อ่าวนาง จะ ตั้งอยู่ตามถนนเลียบชายทะเลเป็นระยะทาง 6 กิโลเมตร เป็นหาดทรายทอดยาว มีถนนเลียบชายหาด มีภูเขาคั่นระหว่างชายหาด ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามแปลกตา ด้านทิศตะวันออก ของอ่าว มีถ้ำหิน งอกหินย้อยชื่อ ถ้ำพระนาง และบริเวณด้านหน้าของ อ่าวนาง มีกลุ่มเกาะน้อยใหญ่ถึง 83 เกาะ ที่เป็นโขดหิน รูปร่างแปลกประหลาดบ้างก็คล้ายรองเท้าบู๊ท เรือสำเภา หัวนก และอื่น ๆ กลุ่มเกาะเหล่านี้ เช่น เกาะปอดะ เกาะยาหมัน เกาะบะติงมิ้ง เกาะยาวาซา เกาะลาดิง เกาะหม้อ เกาะทัพ เป็นต้น อ่าวนางถือเป็น จุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง

 

https://www.youtube.com/watch?v=5wG5rswPP2Q






 

                              

 

หาดนพรัตน์ธารา

หาดนพรัตน์ธารา ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็นท่าเรือศูนย์กลางไปเที่ยวตามเกาะ ต่างๆ ของกระบี่ เดิมชาวบ้านเรียกว่า “หาดคลองแห้ง” เพราะช่วง น้ำลง น้ำคลองที่ไหลมาจากภูเขาทางด้านเหนือจะแห้งขอด กลาย เป็นหาดทรายขาวเหยียดทอดลงไปในทะเล บรรจบกับ เกาะเขาปากคลอง บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็กๆ ประดับด้วยทิวสนเรียงรายตามชายหาดทะเล มองออก ไปในพื้นน้ำมีทิวทัศน์ของเกาะแก่ง ช่วงน้ำลงจนแห้งสามารถเดินไป ยัง เกาะเล็กๆ บริเวณหน้าชายหาดได้ เหมาะสมสำหรับ การพัก ผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี

 

https://www.youtube.com/watch?v=3Bb0X2A6FIk

 

 

 

 

 

 

 

เกาะกลาง

หากนึกถึงกระบี่ก็จะนึกถึงแต่การท่องเที่ยวทะเล ซึ่งมีเกาะสวยงามให้เที่ยวมากมาย ท่ามกลางความคึกคักของนักท่องเที่ยว แต่ใครจะรู้ว่าในตัวเมืองกระบี่มีความสงบสวยงามซุกซ่อนอยู่ เพียงแค่นั่งเรือข้ามฝั่งจากตัวเมืองเพียง 10 นาที จะได้พบกับชุมชนที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ มีวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและยังคงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นไว้เป็นอย่างดี  ที่ชุมชนบ้านเกาะกลาง เกาะเล็กๆที่ตั้งอยู่กลางแม่น้ำกระบี่ ห้อมล้อมด้วยป่าชายเลนและปากแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์นับพันไร่ เหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่งที่มีแต่ธรรมชาติ ความอบอุ่น และเป็นมิตรจากชาวบ้าน การมาเที่ยวเกาะกลางสามารถเที่ยวได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ หรืออาจจะพักค้างคืนเพื่อสัมผัสบรรยากาศของชุมชนให้เต็มที่ ที่พักบนเกาะกลางมีไม่มากนัก มีทั้งแบบบ้านโฮมสเตย์ริมทะเลซึ่งจะอยู่บริเวณท้ายเกาะ หรือพักรีสอร์ท ตกแต่งสวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันซึ่งมีอยู่เพียงแห่งเดียวบนเกาะ ชื่อว่า อัยลันดา ไฮด์อะเวย์ รีสอร์ท ที่พักสไตล์อีโค่ หลังจากมองหาที่พักและข้อมูลมาในระดับหนึ่ง ไปสะดุดตาและถูกใจที่พักแบบโฮมสเตย์ร่วมกับเจ้าของบ้านที่ท่าทางจะดูเป็นมิตร ตกแต่งชิค บรรยากาศ

 

 

 

 

 

สบายๆกันเอง ชื่อว่า คิดถึง คอทเทจ ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือเพียง 100 เมตร เรียกได้ว่าลงจากเรือปุ๊บก็เดินมาบ้านพักได้เลย  เมื่อก้าวเข้ามาในบริเวณบ้านเราจะได้ยินเสียงกล่าวต้อนรับอย่างเป็นกันเอง พร้อมรอยยิ้มจากเจ้าของบ้านทั้ง 2 คน น้องน้องมัตถ์และน้องมูนา 2 สามีภรรยา ที่มานำบ้านส่วนตัวมาปรับปรุงเป็นบ้านโฮมสเตย์ คุยกันได้ซักพักใหญ่ ก็รู้สึกชื่นชอบและอุ่นใจในอัธยาศัยไมตรีของทั้ง 2 คน ที่พูดคุยและแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆบนเกาะกลางได้ดีมาก น้องบอกว่าที่พักเพิ่งเปิดได้ไม่นาน

กิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะกลาง

มาถึงเกาะกลาง จะทำอะไรกันดี แน่นอนกิจกรรมหลัก คือ เที่ยวชมบรรยากาศและวิถีชีวิตชาวบ้านรอบเกาะ ซึ่ง บนเกาะกลางนั้นมีกลุ่มอาชีพหลายกลุ่ม ตั้งแต่กลุ่มเพนท์ผ้า ทำผ้าบาติก  ทำเรือหัวโทง ชมการสักหอยชายหาด การเที่ยวรอบเกาะจะปั่นจักรยานเที่ยว ขี่มอเตอร์ไซต์ หรือใช้บริการรถสามล้อพ่วงข้างนำเที่ยวก็ย่อมได้ วันแรกที่มาถึงขอไปแบบสโลวๆจะได้ออกกำลังกายเผาผลาญไขมันไปในตัว นั่นก็คือ ปั่นจักรยาน ที่คิดถึง คอทเทจ มีจักรยานแม่บ้านให้ปั่นฟรี

และมีจักรยานทัวริ่งให้เช่าด้วยค่ะ ก่อนปั่นน้องมัตถ์ได้ส่งแผนที่ท่องเที่ยวเกาะกลางพร้อมอธิบายจุดท่องเที่ยวต่างๆ ให้แบบครบถ้วน

 เริ่มปั่นในช่วงบ่ายแก่ๆ เพราะแดดไม่แรงมาก เกาะกลางมีถนนสายหลักเล็กๆ เป็นคอนกรีต วิ่งรอบเกาะอยู่ 1 สาย ตลอดสองข้างทางก็จะเป็นบ้านเรือนของผู้คน บ้าง เป็นทุ่งหญ้า ป่าชายเลนบ้างสลับกันไป ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประมงพื้นบ้าน และรับจ้างทั่วไป ชาวมุสลิมบนเกาะกลางนั้น  รักสันติ มีความสงบ

 

 

 

 

 

และเรียบง่าย เต็มไปด้วยมิตรภาพ และรอยยิ้ม ตลอดเส้นทางที่ปั่นจักรยานเที่ยวนั้น ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นคนต่างถิ่นแม้แต่น้อย ในทางกลับกันรู้สึกว่าเราคือ คนในพื้นที่เป็นลูกเป็นหลาน เพราะชาวบ้านทุกคนเป็นกันเองและให้การต้อนรับดีมากเราแวะชม การทำเรือหัวโทง ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์โอทอปบ้านเกาะกลาง หากเดินทางจากท่าเรือหรือคิดถึงคอทเทจก็จะเจอศูนย์ชาวนาข้าวสังข์หยดเป็นที่แรก แต่วันที่เดินทางไปที่กลุ่มมีงานนิดหน่อยเลยไม่ได้เปิดให้เข้าชม และต่อมาคือ กลุ่มเรือหัวโทง ซึ่งในสมัยก่อนชาวเกาะกลางนิยมใช้เรือหัวโทงทำประมงหาเลี้ยงชีพและใช้ในการเดินทาง แต่ปัจจุบันอาชีพประกอบเรือหัวโทงเริ่มลดน้อยลง และรูปแบบเรือหัวโทงดั้งเดิมก็หาดูได้ยาก ชาวบ้านจึงรวมกลุ่มขึ้นมาเพื่อทำเรือหัวโทงจำลองขึ้นโดยมี บังสมบูรณ์ เป็นผู้บุกเบิก การต่อเรือหัวโทงจำลอง โดยใช้วิชาความรู้ ที่ได้สืบทอด มาจากคุณพ่อ ซึ่งเป็นช่างต่อเรือ ชาวเกาะกลาง ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ประวัติและความเป็นมาของเรือที่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดกระบี่ โดยเรือหัวโทงจำลองจากเกาะกลางได้พัฒนาเป็นสินค้าโอทอประดับ 4 ดาว ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัด

 นอกจากเรือหัวโทงแล้ว ยังได้รู้จักกับสินค้าของอนุรักษ์ที่เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านเกาะกลางอีก 1 อย่าง  นั่นก็คือ ไฟตบ หรืออุปกรณ์จุดไฟสมัยโบราณ ถ้าเทียบกับของในยุคปัจจุบันก็คือ ไฟเช็ค นั้นเอง ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ได้รู้ว่ามีของแบบนี้ด้วยก็ที่เกาะกลางนี่แหละมีลักษณะพิเศษและแปลกตามาก อุปกรณ์ที่นำมาใช้ผลิตนั้น มาจากปลายสุดของเขาควายตันโดยนำมาเจาะรูแล้วใช้ไม้กลมขนาดพอดีรูที่เจาะไว้ แล้วใช้ซากเต้าร้างต้นไม้ป่าที่หาได้ทั่วไปเป็นชนวนจุดไฟ โดยใช้วิธีการอัดเข้าไปในรูของเขาควายแล้วใช้มือตบอัดเข้าไปในเขาควายแล้วดึงขึ้นมาก็จะทำให้เกิดประกายไฟติดขึ้นมา เห็นอันเล็กๆแบบนี้ ราคาไม่ใช่เล่นๆ อันละ 1200 บาท  แต่พี่บังบอกว่า มีกลุ่มลูกค้าที่ชอบของโบราณแบบนี้และซื้อเก็บไว้ มีออเดอร์สั่งทำตลอด บอกเลยไม่ใช่ธรรมดา

 

 

 

ออกมาจากกลุ่มเรือหัวโทง ปั่นจักรยานชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ตลอดสองข้างทางนั้นอากาศดีและเย็นสบาย เป็นธรรมชาติมาก รับรู้ถึงความบริสุทธิ์ของอากาศ เรามาหยุดพักกันตรงนี้ ณ ทุ่งนากว้างใหญ่  เกาะกลางมีการปลูกข้าวด้วย เรียกว่า ข้าวสังข์หยด เป็นข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองที่เป็นของดีของภาคใต้ และในพื้นที่เกาะกลางเป็นอีกหนึ่งแหล่งของภาคใต้ที่มีการทำนาข้าวสังข์หยดจนได้กลายมาเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์โอท็อปของจังหวัดกระบี่  ข้าวสังหยดที่ปลูกบนเกาะกลางจะแตกต่างจากแหล่งอื่นๆ เพราะที่ดินที่เกาะกลางมีความเค็มของน้ำทะเลผสมอยู่ด้วย เมื่อหุงแล้ว มีความหอม หุงขึ้นหม้อ และเคี้ยวนุ่ม โดยการทำนาข้าวสังหยดจะปลูกปีละครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน และเกี่ยวข้าวในช่วงเดือนธันวาคม เพราะฉะนั้นใครอยากได้บรรยากาศสีเขียวในช่วงทำนาก็เลือกมาให้ถูกจังหวะนเวลาฤดูร้อนชาวบ้านพักจากการทำนาชั่วคราว และเปลี่ยนพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นสนามเล่นว่าวแทน ทราบมาว่าในวันพรุ่งนี้จะมีการแข่งขันว่าวด้วย วันนี้ก็จะมีซ้อมกันนิดหน่อยกรงนกหัวจุกที่เราจะได้เห็นห้อยอยู่หน้าบ้านแทบทุกบ้านของชุมชนเกาะกลางนิยมเลี้ยงกันไว้ เพื่อความบันเทิง และเพื่อแข่งขันประชันเสียงกันด้วยนอกจากนกหัวจุกแล้ว เราก็จะได้เห็นแพะที่เดินอยู่ทั่วไปตามท้องถนน และตามบ้านเรือน เหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้าน คล้ายกับสุนัข ด้วยเกาะกลางนั้นเป็นชุมชนชาวมุสลิมทำให้ไม่มีการเลี้ยงสุนัข  แต่จะเห็นเจ้าแพะน้อยมาแทนมาถึงกลุ่มทำผ้าปาเต๊ะ ซึ่งลายผ้าปาเต๊ะบนเกาะกลางจะมีรูปแบบเฉพาะตัวที่มีการผสมผสานกันระหว่างการทำผ้าปาเต๊ะของชาวมาเลย์กับวิธีการทำผ้าบาติกลายผ้า ทำให้สีสันที่ออกมามีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเรียนรู้และทดลองผ้าปาเต๊ะด้วยมือของตัวเองปั่นจักรยานมาถึงเกือบท้ายเกาะ เรียกว่าไกลพอสมควร ทำเอาแอบหอบด้วยความเหนื่อย มาเพื่อชมบรรยากาศของการสักหอยในยามเย็น การสักหอยหรือขุดหอย เป็นการทำประมงพื้นบ้านที่น่าสนใจ สามารถชมได้ที่หาดแหลมสน ชายหาดเพียงแห่งเดียวบนเกาะที่ติดทะเล มีหาดทรายในพื้นที่รอยต่อระหว่างปากแม่น้ำกระบี่กับทะเลกระบี่ หาดทรายที่นี่จึงอุดมสมบูรณ์ 

 

 

 

ในพื้นทรายเต็มไปด้วยหอยมากมาย เช่น หอยราก หอยเม็ดขนุน หอยหลักไก่ หอยจุ๊บแจง โดยเฉพาะหอยหวานนั้นจะพบมาก แต่ละวันยามน้ำลงจะมีชาวบ้านออกมาเดินสักหอยเพื่อนำไปขาย สำหรับการสักหอยนั้นเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมาแต่โบราณ โดยชาวบ้านจะนำไม้แหลมกลมยาว มาเดินแทงลงบนพื้นทราย เมื่อทรายขยับตัว บริเวณไหนที่หอยอาศัยอยู่ หอยจะพ่นน้ำออกมา จากนั้นเมื่อคนสักเห็นน้ำผุดขึ้นมาจากทรายก็จะใช้เท้าคีบหอยใส่ภาชนะ  เราจบการเดินทางของวันนี้กันที่นี่ จากนั้นจึงปั่นจักรยานกลับไปยังที่พักเพื่อพักผ่อน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เกาะรอก

เกาะรอก อยู่ในน่านน้ำทะเลกระบี่ที่เชื่อมต่อทะเลตรัง ลักษณะเป็นสองเกาะเล็กๆ ตั้งคู่กันเป็นเกาะที่มีหาดทราย ที่ยาวเหยียด เม็ดทราย ละเอียดเนียนนุ่มเท้าเมื่อสัมผัส ทรายขาวมาก บรรยากาศการท่องเที่ยวของเกาะรอกเหมาะกับผู้ชื่นชอบการค้นหามุมมอง ที่สวยงาม เงียบสงบ และโรแมนติกจากธรรมชาติ หาดทรายที่สวยงาม น้ำทะเลตื้นและใสมากแนวปะการังที่อุดมไปด้วยดอกไม้ทะเลเป็นถิ่นอาศัย ของปลาการ์ตูนส้มเหลืองสี สดใสที่ทุกคนชื่นชอบที่จุดชมทิวทัศน์เกาะรอกนอกจะเห็นภาพของอ่าวโค้งคล้ายเกือกม้า สองด้านของอ่าว เป็นผาหินสูง ชันเห็นทิวทัศน์ของเกาะรอกนอกและเกาะรอกในและ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง

https://www.youtube.com/watch?v=qvAHEa06Ni4

 

 

 

 

 

 

 

เกาะจำ

เกาะจำ ตั้งอยู่ในเขตตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ห่างจากชายฝั่งเพียง 22 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเกาะที่มีชุมชนท้องถิ่นอาศัยอยู่มาเป็นเวลานาน บนเกาะประกอบไปด้วย 3  หมู่บ้านคือ หมู่บ้านเกาะปู หมู่บ้านเกาะจำและหมู่บ้านติงไทร เกาะจำเป็นชุมชนเล็กๆ ที่เงียบสงบ ผู้คนเป็นมิตรและมีน้ำใจไมตรี อีกทั้งทัศนียภาพบนเกาะก็ยังสวยงาม มีชายหาดยาวหลายแห่ง น้ำทะเลใสสะอาด แม้จะไม่สวยใสทรายขาวเหมือนเหมือนเกาะพีพีหรือเกาะห้อง แต่จุดเด่นของเกาะจำก็คือความเงียบสงบและเป็นธรรมชาติที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก  สำหรับการเดินทางมาเกาะจำ ต้องนั่งเรือข้ามไปยังเกาะ โดยวิธีที่สะดวกที่สุดคือ มาขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมกรวด โดยอาจจะนั่งรถโดยสารมาจากในตัวเมืองมายังท่าเรือจะมีรถโดยสารให้บริการมาถึงท่าเรือแหลมกรวด แต่อาจจะต้องรอนานซักหน่อย มาชั่วโมงละ 1 คัน แต่สำหรับใครที่นำรถส่วนตัวหรือเช่ารถขับออกมากจากสนามบิน บริเวณท่าเรือมี บริการรับฝากรถ  1 คืน ราคา 60 บาท หากพ้นเวลาเที่ยงแล้วคิดเป็นอีกหนึ่งวัน คือ 120 บาท เมื่อไปถึงบริเวณท่าเรือแหลมกรวดแล้ว ถามชาวบ้านแถวนั้นได้ว่าฝากรถตรงไหน

 

https://www.youtube.com/watch?v=wQZ-IGsmH0g
อขอบคุณข้อมูลจากเว็บ

https://travel.kapook.com/view177862.html

ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :